คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 และ 7 พฤศจิกายน 2560 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ในการนี้ กระทรวงการคลังจึงขอเชิญชวนผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและอาศัยอยู่ในกาตาร์ในขณะนี้ ร่วมกันแจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพื่อนำไปจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการของรัฐจำนวน 3.6 ล้านคน โดยสามารถแจ้งความประสงค์บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา โดยให้นำเอกสารดังต่อไปนี้ไปประกอบการแจ้งความประสงค์ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
1. แบบคำขอบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุสำหรับจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว (แบบคำขอฯ ดังแนบด้านล่าง) หรือผู้แจ้งความประสงค์ไปขอรับแบบคำขอฯ และกรอกข้อมูลที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้
2. บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน ให้นำเอกสารดังต่อไปนี้ไปประกอบการแจ้งความประสงค์ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
1. แบบคำขอบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุสำหรับจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว (แบบคำขอฯ ดังแนบด้านล่าง) หรือผู้รับมอบอำนาจไปขอรับแบบคำขอฯ และกรอกข้อมูลที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้
2. หนังสือมอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้มอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบอำนาจ
สิทธิประโยชน์ที่ผู้บริจาคจะได้รับ
1. เหรียญเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละเงินเบี้ยยังชีพที่จะนำไปให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
2. สิทธิในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 เท่าของเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อน
ทั้งนี้ กองทุนผู้สูงอายุจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินและเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้บริจาคตามที่อยู่ที่ระบุในประเทศไทยเท่านั้น