เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ร่วมกับพิพิธภัณฑ์ Qatar Museums จัดพิธีเปิดนิทรรศการ Thailand’s Innovative Upcycling for Everyday Life ณ พิพิธภัณฑ์ M7 Gallery กรุงโดฮา โดยมีนายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ร่วมกับ รศ.ดร. สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ Scrap Lab มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ H.E. Ambassador Ibrahim Fakhro อธิบดีกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ในฐานะแขกเกียรติยศ

พิธีเปิดดังกล่าวมีแขกเข้าร่วมกว่า 80 ราย ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน และเอกอัครราชทูตต่างประเทศในกาตาร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐกาตาร์ นักวิชาการและนักวิจัย ผู้แทนภาคเอกชน และสื่อมวลชนท้องถิ่น

เอกอัครราชทูตฯ กล่าวในพิธีเปิดเน้นย้ำว่า นิทรรศการดังกล่าวซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับพิพิธภัณฑ์ Qatar Museums สะท้อนหลักการ Bio-Circular-Green (BCG) Economy ของไทย ซึ่งไม่เพียงเป็นกรอบเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมวิทยาศาสตร์เข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณีกับวัฒนธรรม และนวัตกรรมกับความยั่งยืน รวมถึงย้ำว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียงแนวคิดเชิงนามธรรม แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถมองเห็น สัมผัส และนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นความร่วมมือที่ไทยกับกาตาร์สามารถร่วมมือกันต่อไป นอกจากนี้ รศ.ดร. สิงห์ อินทรชูโต ได้นำเสนอผลงานของประเทศไทยในการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัสดุประเภทใหม่จากวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ในงานออกแบบอย่างยั่งยืน พร้อมสาธิตการแปรรูปวัสดุที่ถูกทิ้งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และเปิดโอกาสสู่ความร่วมมือใหม่ ๆ ระหว่างไทยกับกาตาร์

นิทรรศการนี้เป็นการต่อยอดจากการเข้าร่วมงาน Earthna Summit 2025 ของไทย โดยนำเเสนอแนวทางการพัฒนาที่เน้นการมีส่วนร่วมของมนุษย์ผ่านการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายในงานฯ มีการจัดแสดงนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ อาทิ พรมที่ทอจากพลาสติกอัพไซเคิลในลวดลายดั้งเดิม รองเท้าและเครื่องใช้ที่ผลิตจากของใช้ทางการเกษตร เฟอร์นิเจอร์จากขยะทะเล เครื่องประดับจากไฟท้ายรถยนต์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้ว

เกี่ยวกับนิทรรศการ Thailand’s Innovative Upcycling for Everyday Life

นิทรรศการดังกล่าวมุ่งเน้นการนำเสนอเรื่องราวของชุมชนท้องถิ่นที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมและผลงานต่าง ๆ ซึ่งเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส รักษาอาชีพ และสืบสานวัฒนธรรมไปพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Qatar National Vision 2030 และยุทธศาสตร์ Third National Development Strategy (2024–2030) ที่มุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การธำรงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการสร้างสังคมฐานความรู้และนวัตกรรม ตลอดจนสะท้อนหลักการ Bio-Circular-Green (BCG) Economy ของไทยที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น

นิทรรศการ Thailand’s Innovative Upcycling for Everyday Life จัดแสดงระหว่างวันที่ 8 – 14 กันยายน 2568
ณ พิพิธภัณฑ์ M7 Gallery และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ในห้วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นวาระสำคัญของประชาคมโลก ไทยและกาตาร์
ได้ยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การธำรงรักษาวัฒนธรรม และการผลักดันนวัตกรรมที่หยั่งรากจากภูมิปัญญาและวิทยาศาสตร์

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา มุ่งมั่นส่งเสริมภารกิจการเสริมสร้างเครือข่ายด้านนวัตกรรมและวิชาการระหว่างไทยกับกาตาร์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในมิติด้านการเมือง เศรษฐกิจ และประชาชนต่อไป