ด้วยระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤศจิกายน 2568 นายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ให้การต้อนรับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้แทนรัฐสภาไทยประกอบด้วย นายซูการ์โน มะทา นายสมุติ เบ็ญจลักษณ์ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในโอกาสการเยือนกาตาร์อย่างเป็นทางการ

โดยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรและคณะผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าพบหารือกับ H.E. Dr. Hamda bint Hassan Al-Sulaiti รองประธานสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐกาตาร์ (Shura Council) (ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐกาตาร์) ณ อาคารสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐกาตาร์ โดยประธานรัฐสภาฯ ย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและกาตาร์ที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน และพร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี โดยเฉพาะกรอบสหภาพรัฐสภา (IPU) นอกจากนี้ กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–กาตาร์มีกำหนดจะเดินทางเยือนกาตาร์ในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อและกระชับความร่วมมือระหว่างกันต่อไป ซึ่ง H.E. Dr. Al-Sulaiti รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ กล่าวย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างรัฐสภาสองประเทศ โดยกาตาร์ได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภากาตาร์–เอเชีย เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าวกับประเทศไทย พร้อมชื่นชมศักยภาพของไทยทั้งด้านการศึกษา การท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ชาวกาตาร์ รวมถึงท่าทีของประเทศไทยในกรอบสหภาพรัฐสภา (IPU) โดยภายหลังการหารือฯ รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ นำประธานรัฐสภาฯ และคณะเยี่ยมชมห้องประชุมสภาที่ปรึกษารัฐกาตาร์

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ประธานรัฐสภาฯ และคณะ เข้าพบหารือกับ H.E. Ghanem bin Shaheen bin Ghanem Al Ghanim รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนสมบัติและกิจการอิสลาม (Ministry of Endowments and Islamic Affairs) โดยประธานรัฐสภาฯ ชื่นชมบทบาทของกระทรวงศาสนสมบัติฯ ในการสนับสนุนการศึกษา ศาสนา และการดูแลประชาชนทั้งในกาตาร์และชาวมุสลิมทั่วโลก รวมถึงการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนชาวไทยในระดับมัธยมศึกษาในกาตาร์ และการดำเนินการของมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ณ จังหวัดปัตตานี ซึ่งกาตาร์ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่การก่อตั้งมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้ ประธานรัฐสภาฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โจมตีในกรุงโดฮาเมื่อเดือนกันยายน2568 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยย้ำท่าทีประเทศไทยในการประณามการกระทำดังกล่าว และชื่นชมบทบาทของกาตาร์ในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยสันติภาพ รวมถึงขอบคุณกาตาร์ที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจนนำมาสู่การปล่อยตัวประกันชาวไทยแรงงานไทยทั้งหมด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนสมบัติฯ กล่าวย้ำความพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศไทยเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความสงบสุขของประชาคมโลก รวมถึงการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนชาวไทยในกาตาร์ และมหาวิทยาลัยฟาฏอนี รวมถึงชื่นชมประเทศไทยในระบบสาธารณสุขและการบริหารจัดการภาครัฐ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้อพยพชาวโรฮีนญา  

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ นำประธานรัฐสภาฯ และคณะ เข้าเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของกาตาร์ อาทิ  Education City Mosque หอสมุดแห่งชาติกาตาร์ (Qatar National Library) Museum of Islamic Arts และ National Museum of Qatar รวมถึงการเข้าเยี่ยมชมและให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการของประเทศไทยซึ่งเข้าร่วมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยในงาน Qatar Travel Mart (QTM) 2025 เพื่อผลักดันการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ของไทย และในโอกาสนี้ นายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติและหารือข้อราชการกับประธานรัฐสภาฯ และคณะด้วย

การเยือนดังกล่าวของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเป็นโอกาสอันดีในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและสานต่อความร่วมมือไทย-กาตาร์ในทุกมิติ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะสานต่อข้อริเริ่มต่าง ๆ และขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทยกับกาตาร์ในทุกมิติเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนไทยต่อไป